ประวัติวัดประชารังสรรค์
พระพุทธมุนีศิริเกษวิหารประชารังสรรค์
พ.ศ.๒๔๘๓-๒๔๙๔
วัดประชารังสรรค์ เดิมทียังเป็นสำนักสงฆ์การพัฒนาไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร สมัยก่อนบริเวณแห่งนี้ยังเป็นป่าดงดิบ ชาวบ้านเรียกว่า หัวเลย
มีปู่เจ้าหัวเลยรักษาอาณาบริเวณนี้อยู่
และเป็นที่ยำเกรงของชาวบ้านแถบนี้เป็นอย่างมาก
เมื่อถึงเทศกาลฤดูฝนจะมีการบวงสรวงเจ้าปู่หัวเลยเพื่อความร่มเย็นเป็นสุข
ต่อมามีข้าศึกทางเมืองเขมร ทางฝ่ายบ้านเมืองจึงได้ยกทัพมาทันกันที่หัวเลย
จึงได้ตั้งชื่อใหม่เป็นทางการว่า ห้วยทัพทัน เมื่อเป็นชุมชนเกิดขึ้น จึงเปลี่ยนจากห้วยทัพทัน เป็น ห้วยทับทัน
สภาพ
ของวัดในสมัยนั้นไม่มีการพัฒนาต่อเนื่องและห่างไกลจากการปกครองของคณะ
สงฆ์ มีพระภิกษุดูแลมาก่อนแล้ว ๕ รูป คือ (๑) หลวงปู่ด่าง (๒)พระมหามานิตย์
(๓) พระสมบูรณ์ (๔) พระสีหราช (๕) พระคำไข โชติธมฺโม สภาพยังเป็นป่า
มีเนื้อที่ประมาณ ๓๓ ไร่เศษ และมีการประกาศตั้งวัดเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๔๘๓ (ก่อนกฎกระทรวง)
พ.ศ.๒๔๙๕ ท่าน
เจ้าคุณพระราชคุณาภรณ์ (ดาว ญาณธโร) เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต)
ในสมัยนั้น ได้รับเรื่องราวเกี่ยวกับวัดป่าศรีสำราญและวัดป่าประชารังสรรค์
บ้านห้วยทับทัน ว่าไม่มีพระอธิการเจ้าวัดปกครองดูแล
ท่านเจ้าคุณจึงได้พิจารณาคัดเลือกพระภิกษุในวัดผู้มีความรู้ความสามารถและ
จริยวัตรพอไว้วางใจได้ ให้ไปเป็นเจ้าอธิการปกครองดูแลแทน จึงคัดเลือก
พระบุญเลื่อน ปภากโร
เพื่อนสหธรรมมิกรูปหนึ่งของท่านเจ้าคุณไปจำพรรษาที่วัดป่าศรีสำราญ
เมืองศรีสะเกษ
พระมหาจรัส เขมจารี
และได้คัดเลือก พระจรัส เขมจารี
หรือท่านเจ้าคุณจรัสให้มาประจำที่วัดป่าประชารังสรรค์ บ้านห้วยทับทัน หมู่
๑ ท่านเจ้าคุณได้เดินทางเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๔๙๕
ในพรรษาแรกแรกนั้นเข้าจำพรรษาในกุฎิกระท่อมมุงหญ้า ฝาไม้ไผ่ขัดแตะแถบตอง
มีพระภิกษุ ๔ รูป สามเณร ๒ รูป สภาพค่อนข้างลำบากอยู่มาก
แต่ก็สงบร่มรื่นด้วยราวป่าที่มีสภาพยังเป็นป่า
พ.ศ.๒๕๐๑
อุบาสกขาว เขียวสวาท,
อุบาสกพวง อินทะนิล
บุตรของนายแก้ว นางหล้า
อยู่่บ้านห้วยทับทัน หมู่ที่ ๙ ตำบลหนองห้าง(สมัยนั้น) อำเภออุทุมพรพิไสย
จังหวัดศรีสะเกษ ได้ถวายที่ดินให้แก่วัดห้วยทับทัน(ประชารังสรรค์)
จำนวนที่ดิน ๓๓ ไร่ ๒ งาน ๒๖ ตารางาว ตามหนังสือสัญญาได้ทำเมื่อวันที่ ๒๐
เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๐๑
โดยทิศเหนือจดถนน,ทิศใต้จดป่า,ทิศตะวันออกจดที่นายสิงห์
ศรีชารี,ทิศตะวันตกจดเขตป่าสงวน จึงนับได้ว่า
ตะกูลเขียวสวาท,ตระกูลอินทะนิล
ได้มีคุณูปการต่อวัดประชารังสรรค์แห่งนี้เป็นอย่งสูงยิ่ง และมีอุบาสกบุญมา
เชื้อทอง,อุบาสกกำ่ ขันธุลา เป็นทายกผู้นำคณะไหว้พระรับศีล
สวดมนต์ไหว้พระเช้าเย็น รักษาศีลอุโบสถประจำวันพระต่อมาเป็นลำดับ ต่อมา
ได้มีอุบาสิกาดวงแก้ว แซ่เจ็ง เป็นต้น ได้จัดซื้อที่ดินถวายเพิ่ม ณ ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีเนื้อที่ ประมาณ ๗๕ ไร่
พ.ศ.๒๕๑๓ วัดแห่งนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาขึ้นเป็นวัดอย่างสมบูรณ์ในนามว่า “วัดประชารังสรรค์” เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๓ เนื่องจากอยู่ในเขตป่าเสื่อมโทรม ชาวบ้านจึงนิยมเรียกเป็น “วัดป่าประชารังสรรค์”
เหรียญรุ่นแรก
1 ความคิดเห็น:
น่ะตอนนี้ราคาเท่ารัยแล้วคับ
แสดงความคิดเห็น